ฝนกรด ทำลายสีรถมากกว่าที่คุณคิด!

ฝนกรด ทำลายสีรถมากกว่าที่คุณคิด! หลายคนอาจคิดว่า ฝน เป็นแค่น้ำธรรมชาติที่ช่วยล้างฝุ่นออกจากรถ แต่ในความจริงแล้ว ฝนกรด (Acid Rain) คือศัตรูตัวร้ายที่ค่อยๆ กัดกร่อนผิวสีรถ ทำให้สีหมอง ด่าง และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

ฝนกรดคืออะไร?

ฝนกรดเกิดจากก๊าซมลพิษในอากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO) และ ไนโตรเจนออกไซด์ (NO) จากควันรถยนต์หรือโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อก๊าซเหล่านี้ลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ จะทำปฏิกิริยากับไอน้ำกลายเป็นกรดซัลฟิวริกและกรดไนตริก เมื่อตกลงมาพร้อมฝน ก็จะกลายเป็น ฝนกรด ที่มีค่า pH ต่ำกว่าปกติ (เป็นกรด)

ผลกระทบต่อสีรถ
เมื่อฝนกรดตกโดนรถแล้วปล่อยให้แห้งเอง จะเกิด

คราบน้ำฝังแน่น
รอยด่างบนผิวสีและกระจก
ผิวแลคเกอร์ด้าน
สีซีด หม่น และสูญเสียความเงางาม
ในระยะยาว ฝนกรดสามารถกัดลึกถึงชั้นเคลือบเงา หรือแม้แต่ชั้นสีแท้ของรถได้เลย

แม้เคลือบแก้วแล้ว ก็อย่าประมาท!

แม้รถจะผ่านการเคลือบแก้วหรือเคลือบกราฟีนมาแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอดจากฝนกรดทั้งหมด เพราะกรดยังสามารถซึมผ่านและทำลายชั้นเคลือบได้ หากปล่อยให้คราบน้ำฝนแห้งบนผิวรถ คำแนะนำ: หลังเจอฝนตก ควรรีบล้างรถด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทันที เพื่อป้องกันไม่ให้กรดซึมผ่านเข้าไปทำลายชั้นเคลือบแก้วที่เราดูแลไว้

วิธีขัดคราบน้ำจากฝนกรดอย่างถูกวิธี คราบน้ำฝังแน่นจากฝนกรด สามารถล้างออกได้ด้วยขั้นตอนการดูแลที่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมดังนี้

Step 1 เคลียร์พื้นผิวด้วย ROCKZ Water Spot หรือ 3D Erasergel ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือฟองน้ำสำหรับขัดเฉพาะจุด หยด ROCKZ Water Spot ลงบนผ้า แล้วขัดเบาๆ เป็นวงกลมบริเวณที่มีคราบน้ำ น้ำยาจะช่วยละลายแร่ธาตุและกรดฝังแน่นที่เกาะบนผิวสีและกระจกออกอย่างปลอดภัย จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด ใช้ได้ทั้งบนผิวสีรถและกระจก โดยไม่ทำลายชั้นเคลือบหรือผิวแลคเกอร์

Step 2 เคลือบปกป้องด้วย ROCKZ Rain Coat หรือ 3D Ceramic Wax SiO หลังจากล้างและขัดคราบเรียบร้อยแล้ว ควรลงน้ำยาเคลือบปกป้องเพื่อสร้างชั้นฟิล์มกันน้ำ ช่วยให้คราบน้ำใหม่ไม่เกาะ และป้องกันไม่ให้ฝนกรดสัมผัสกับผิวสีโดยตรง